
การเลือกซื้อ LCD TV
ในการเลือกซื้อ LCD TV นั้นจะมีจุดคล้ายกับการเลือกซื้อจอ Plasma TV แต่ก็ยังคงมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันพอสมควร ดังนั้นควร
พิจารณาให้ละเอียด เนื่องจากแต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกันในรายละเอียดแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีการผลิตที่เหมือนกัน

ขนาดของจอภาพ
ขนาดของจอภาพเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการเลือกซื้อเพราะ ควรจะสัมพันธ์กับระยะที่คุณคิดจะนำไปติดตั้งและนั่งดู (หรือกระทั่งนอนดูอยู่ในห้องนอนก็แล้วแต่) เนื่องจากหากคุณใช้หน้าจอที่ใหญ่เกินไป นอกจากจะทำให้แสงจ้ามาก และการชมรายละเอียด ของภาพยนตร์จะดูลายตาไปหมดแล้ว ยิ่งในกรณีที่คุณใช้จอที่ใหญ่ ที่ความละเอียดในการแสดงผลต่ำ และยิ่งถ้าใช้ภาพยนตร์ DVD ที่ไม่ชัดแล้วละก็ภาพที่ได้เมื่อคุณใช้จอที่ใหญ่ไปมันจะไม่ชัด ทำให้เสียอารมณ์ในการชมเปล่าๆครับ

นอกจากขนาดแล้วถ้าคุณจะซื้อ LCD TV ในจอขนาดเล็กๆ และนำไปใช้ทำงานกับคอมพิวเตอร์ก็ควรพิจารณาด้วยว่าดูถึงว่าจะเป็นจอสัดส่วน ใดระหว่าง
4:3 หรือ 16:9 (Widescreen) แต่ผลแนะนำว่าควรเป็นจอ Widescreen จะดีกว่า เพราะนอกจากจะชมภาพยนตร์ DVD ได้อย่างมีอรรถรสเต็มตาแล้ว ระบบปฏิบัติการ Windows Vista ตัวใหม่ก็ยังรองรับจอ Widescreen ด้วย
อัตรา Contrast,Brightness Ratio และ Response Time
เนื่องจาก LCD TV นั้นเป็นจอที่ให้แสงน้อยกว่า Plasma TV ดังนั้นในจอ LCD TV แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นก็จะมีค่า Contrast ratio และ Brightness ratio ที่แตกต่างกันไป และผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อดูได้ โดยคุณสามารถดูได้จากสเป็กซ์ของจอ LCD TV แต่ละรุ่น นอกจากดูที่สเป็กซ์ก็อย่างไปเชื่อซะทีเดียวผมแนะนำให้คุณลองไปดูด้วยตาจริงๆ ดีกว่า เพราะหลายยี่ห้อก็จะมีการวางสเป็กซ์ไว้เกินความจริงพอสมควร จึงควรทดลองปรับค่าทั้งสองให้อยู่ในระดับกลาง และความคมชัดดีที่สุด มุมมองภาพก็ควรจะมากด้วย โดยเฉพาะจอใหญ่ๆ เพราะจะทำให้คุณสามารถยืนดูภาพที่จุดไหนก็ได้โดยที่สี และภาพไม่เพี้ยน รวมถึงค่า Response Time ที่ควรเลือกต่ำที่สุด เพราะภาพที่ได้จะมีความลื่นตา และต่อเนื่องโดยเฉพาะในจอรุ่นใหญ่ๆ ที่นอกจากสเป็กซ์แล้วการทำลองชมด้วยตา หรือนำแผ่นภาพยนตร์ที่คุณชอบไปลองที่ร้านเลยจะดีกว่าแผ่นตัวอย่างที่ทางร้าน เปิด (ส่วนมาจะเป็นแผ่นที่สร้างมาเพื่อดึงคุณสมบัติของจอรุ่นนั้นๆยี่ห้อนั้นๆ อยู่แล้ว)
สนับสนุน HD Ready

ช่องต่อสัญญาณภาพ และเสียง


ระบบเสียงในตัวเครื่อง
ปัจจุบันการจำหน่าย LCD TV มีการแข่งขันกันมากขึ้น ทั้งจากผู้ผลิตสินค้า AV เอง หรือผู้ผลิตจอคอมพิวเตอร์ต่างก็สามารถผลิต LCD TV กันได้ จึงเริ่มมีการอัดระบบเสียงที่ดีแข่งขันกันมากขึ้น ยิ่งหากคุณไม่คิดจะซื้อลำโพง หรือระบบเสียง Home Theater เพิ่มเติมเข้าไปแล้วก็ควรจะพิจารณาถึงจุดนี้ด้วยอาทิ บางยี่ห้อจะมีระบบเสียงทั้ง DTS,Dolby Digital,SRS,BBE และอีกมากหลายมาตรฐาน ซึ่งจะให้ความแตกต่างของรายละเอียดเสียงได้มากเลยทีเดียว


รีโมต เรื่องง่ายที่อาจยาก
รีโมตควบคุมนั้นก็เป็นอีกหนึ่งในความสะดวกทำให้ง่ายต่อการใช้งาน แต่บางรุ่นก็อาจกลายเป็นความลำบากและยุ่งยากในการใช้งานไปซะได้ เนื่องจาก LCD TV นั้นมีลูกเล่นมาก รองรับการต่อสัญญาณภาพก็มากทำให้หลายยี่ห้อจะเน้นการออกแบบรีโมตรให้ควบคุม ทุกอย่างทั้งฟังก์ชั่นต่างๆ ของโทรทัศน์รวมลามไปถึงพวกเครื่องเล่น DVD ที่นำมาต่อด้วย จึงมีปุ่มมากมายวุ่นวายไปหมด ดังนั้นก็ควรดูว่ารีโมตนั้นควบคุมยากไหมหรือยังไงก็ให้
คนขายช่วยสอนก่อนซื้อมาใช้ก็ดีนะครับ

แต่ละยี่ห้อก็จะมีเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะการออกแบบวงจร ชุดถอดรหัสจึงทำให้สีสันความชัดและมิติของภาพที่ได้ในแต่ละยี่ห้อมีความแตก ต่างกัน คุณผู้อ่านจึงควรพิจารณาก่อนว่าเทคโนโลยีเฉพาะในการแสดงภาพของแต่ละยี่ห้อ รุ่นไปนตรงใจคุณมากที่สุด และยังไม่รวมถึงลูกเล่นพิเศษอื่นๆที่น่าสนใจ
เท่าที่คุยกันมาผู้อ่านคงพอทราบรายละเอียด และเทคโนโลยีของ LCD TV แล้วนะครับ ไว้คราวหน้าเมื่อคุณเดินห้างสรรพสินค้า และอยากได้โทรทัศน์เครื่องใหม่ติดบ้านอีกซักเครื่อง คงพอมีแนวทางในการเลือกซื้อและเข้าใจในจุดเด่นของแต่ละแบบจะได้ไม่ต้องงงกับ คนขายที่ต่างเชียร์จนสับสนไปหมด
ที่มา :นิตยสาร Extreme Issue
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น